วว. วิจัยพัฒนาน้ำนมถั่วชิกพีพร้อมดื่มระบุโปรตีนสูง แถมไขมันต่ำ
..........................................................................................................................
ข้อมูลจาก :: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) http://www.tistr.or.th
|
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โชว์ผลงานวิจัยและพัฒนา “น้ำนมถั่วชิกพี” ระบุมีโปรตีนสูง ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย 5 ชนิด ไขมันต่ำกว่าถั่วลิสง/ถั่วเหลือง มีใยอาหารและคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์
นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. กล่าวชี้แจงว่า ฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร วว. ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ “น้ำนมถั่วชิกพี” หรือ Chickpea milk เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคและเป็นการส่งเสริมให้มีการปลูกถั่วชิกพีภายในประเทศ
ถั่วชิกพีในปริมาณ 100 กรัมเมล็ดแห้ง จะมีคุณค่าทางโภชนาการประกอบด้วย โปรตีน 20-30 กรัม กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ methionine, cystine, threonine, tryptophane และ valine มีปริมาณไขมันต่ำประมาณ 4 กรัม ซึ่งต่ำกว่าปริมาณไขมันในถั่วลิสงและถั่วเหลือง มีเส้นใย 5 กรัม แคลเซียม 0.2 กรัม ฟอสฟอรัส 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย 58 กรัม และพลังงาน 1,520 กิโลจูลแคลอรี่
“ น้ำนมถั่วชิกพีเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มที่ผลิตจากถั่วชิกพี หรือที่รู้จักในชื่อถั่วหัวช้างหรือถั่วลูกไก่ เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่แพ้นมวัว เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ในอนาคต วว. จะพัฒนาผลิตภัณฑ์จากถั่วชิกพีให้อยู่ในรูปผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนสำหรับเด็กและนักกีฬา ผลิตภัณฑ์แป้งสำเร็จรูปสำหรับ เค้ก ขนมปัง คุกกี้ และผลิตภัณฑ์ขบเคี้ยว ทั้งนี้ วว. พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตน้ำนมถั่วชิกพีให้กับผู้ประกอบการที่สนใจนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้ตลาดนมของไทยมีความหลากหลายมากขึ้นและเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค นอกจากนั้นยังจะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แก่พี่น้องเกษตรในการเพาะปลูกถั่วชนิดนี้สำหรับเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานต่อไป” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นางจิตตา สาตร์เพ็ชร์ นักวิชาการ ฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ถั่วหัวช้าง (chickpea) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cicer arietinum L. จัดอยู่ในวงศ์ Leguminosae เป็นถั่วประเภทมีฝักมีลักษณะเป็นทรงกลมและมีจะงอยแหลมเหมือนปากไก่ สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. Desi type เป็นพันธุ์ที่มีดอกสีม่วง เมล็ดเล็กและผิวขรุขระ เปลือกหุ้มเมล็ดมีสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม
2. Kabuli type เมล็ดใหญ่กว่าผิวค่อนข้างเรียบ สีเปลือกหุ้มเมล็ดมีสีครีม มีถิ่นกำเนิดอยู่ในตะวันออกกลาง และมีการปลูกเป็นการค้าอย่างแพร่หลายในประเทศอินเดีย ปากีสถาน เอธิโอเปีย ตุรกี เม็กซิโก ในทั่วโลกจะมีการปลูกถั่วชิกพีเป็นอันดับ 5 รองจากถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วแขกและถั่วลันเตา มีการผลิตประมาณ 15% ของการผลิตถั่วเมล็ดแห้งทั่วโลก
อย่างไรก็ตามการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกเนื่องจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น อินเดีย ยังมีการนำเข้าถึงปีละประมาณ 204,400 ตัน และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการนำเข้าปีละ 271,300 ตัน
ถั่วชิกพีมีลักษณะเด่นคือ เป็นพืชทนแล้งและสามารถปรับตัวได้ดีในพื้นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่พื้นที่เขตหนาว เขตกึ่งร้อนจนถึงพื้นที่เขตร้อน ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น ทนทานต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งและมีความชื้นต่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยเพิ่มความอุดมสมบรูณ์ของดิน เนื่องจากสามารถตรึงไนโตรเจนในอากาศได้ ในประเทศไทยจะปลูกถั่วชิกพีในพื้นที่สูงหรือพื้นที่อื่นๆ ที่มีอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ มีอายุการเก็บเกี่ยว 90-100 วันหลังปลูกลงแปลง ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ โดยจะมีผลผลิตเฉลี่ย 170-220 กิโลกรัมต่อไร่
|