ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับประโยชน์ของรถไฟเพื่อการขนส่งนำไปสู่การฟื้นฟูการใช้งานและความสำคัญของรถไฟ รถไฟบรรทุกสินค้ามีประสิทธิภาพมากกว่ารถบรรทุกอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อตันไมล์น้อยกว่ามาก รถไฟ โดยสารยังประหยัดพลังงานมากกว่าการขนส่งรูปแบบอื่นๆ ตาม รายงานของ International Energy Agency "โดยเฉลี่ย รถไฟต้องการพลังงานน้อยกว่า 12 เท่า และปล่อย GHGsน้อยกว่า 7-11 เท่าต่อผู้โดยสารหนึ่งกิโลเมตรที่เดินทางมากกว่ายานพาหนะส่วนตัวและเครื่องบิน ทำให้เป็นรูปแบบการขนส่งผู้โดยสารที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกเหนือจากการขนส่งทางเรือ รถไฟขนส่งสินค้าเป็นวิธีการขนส่งสินค้าที่ประหยัดพลังงานที่สุดและใช้คาร์บอนน้อยที่สุด" ด้วยเหตุ นี้การขนส่งทางรางจึงถือเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุพลังงานที่ยั่งยืน  รถไฟขนส่งสินค้าขนส่งตู้สินค้าซ้อนสองชั้น นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ได้สร้างธุรกิจที่สำคัญสำหรับทางรถไฟและได้รับส่วนแบ่งการตลาดจากรถบรรทุก มีการส่งเสริมการใช้รถไฟโดยสารที่เพิ่มขึ้นเป็นวิธีการต่อสู้กับการจราจรคับคั่งบนทางหลวงในเขตเมือง