:: ข้อมูลจาก วิชาการดอทคอม http://www.vcharkarn.com
.............................................................................................................
นักชีวเคมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิจัยพบบัวบก ตะไคร้ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ พร้อมคิดค้นวิธีการสกัดบัวบก/ตะไคร้ให้อยู่ในรูป สารสกัดมาตรฐานปูทางสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ชาบัวบก/ตะไคร้ และแคปซูล อาหารเสริมต้านมะเร็ง
ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีข้อค้นพบทางการแพทย์ว่า บัวบกและตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ แต่ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนถึงคุณค่าทางการแพทย์และปริมาณที่เหมาะสมในการบริโภค จึงสนใจขอทุนสนับสนุนจากโครงการสมองไหลกลับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เพื่อศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากบัวบก/ตะไคร้ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
“ในวิจัยได้มีการทดสอบการออกฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดจากบัวบกและตะไคร้ต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดี โดยกลุ่มหนูขาว พบว่า สารสกัดจากบัวบกและตะไคร้ มีฤทธิ์ป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดี โดยกลุ่มหนูขาวที่ถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และมีเซลล์มะเร็งที่มีลักษณะเป็นเซลล์ร้ายและลุกลาม ขณะที่กลุ่มหนูขาวซึ่งได้รับสารสกัดจากใบบัวบกหรือตะไคร้ไม่ว่าขนาดเล็กกว่าและยังไม่มีเกิดการลุกลาม
จากการวิเคราะห์องค์ประกอบพบว่า ในสารสกัดบัวบกมีสาระสำคัญอย่างน้อยหนึ่งตัว คือกรดอะเซียติก(Asiatic acid) ที่อาจเป็นสารออกฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการทำลายตัวเอง ส่วนสารสกัดจากตะไคร้นั้นพบสาระสำคัญ คือ ซิทรอล(citral) ที่มีฤทธิ์หยุดวงจรการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกสำหรับคุณสมบัติข้อนี้ของตะไคร้เลยทีเดียว”
ศ.ดร.อุษณีย์ กล่าวว่า ทีมวิจัยไม่เพียงพบหลักฐานสนับสนุนทางการแพทย์ถึงฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่จากสารสกัดบัวบกและตะไคร้ แต่ยังสามารถสกัดสารที่นำมาทดสอบให้อยู่ในรูป สารสกัดมาตรฐาน ได้อีกด้วย กล่าวคือ เราใช้เทคนิค HPLC fingerprint ในการกำหนดและควบคุมสารที่สกัดจากบัวบกหรือตะไคร้ให้มีปริมาณความเข้มข้นของสารสำคัญที่แน่นอน สม่ำเสมอ ปลอดภัย และได้มาตรฐานทุกครั้ง จึงเหมาะสมต่อการนำไปใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เนื่องจากสมุนไพรส่วนใหญ่โดยธรรมชาติมักจะมีปริมาณสาระสำคัญเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
“นอกจากนี้เพื่อให้สามารถกำหนดปริมาณในการบริโภคสารสกัดจากบัวบกหรือตะไคร้สำหรับป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิผล ทีมวิจัยยังได้เจาะเลือดหนูขาวมาทำการศึกษา วัดอัตราและขอบเขตการออกฤทธิ์ของสารออกฤทธิ์ภายหลังการป้องกันสารสกัดมาตรฐานจากบัวบกหรือตะไคร้ โดยพบว่า หนูขาวสามารถดูดซึมสาระสำคัญได้ในเวลา 10 นาที และเพิ่มปริมาณสูงสุดที่เวลา 1 ชั่วโมงจากนั้นสารสกัดจะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งหายไปจากซีรั่มภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้คำนวณสำหรับวางแผนวิจัยเชิงคลินิกในอาสาสมัคร สำหรับปริมาณการบริโภคที่เหมาะสมในมนุษย์ต่อไป”
อย่างไรก็ดี ขณะนี้งานวิจัยได้มีการทดลองนำสารสกัดจากบัวบกหรือตะไคร้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบในรูปของ ชาบัวบก ชาตะไคร้แคปซูลบัวบก และแคปซูลตะไคร้ บ้างแล้ว ซึ่งผลการทดสอบเบื้อต้นพบว่ามีความปลอดภัยดี โดยหลังจากนี้จะอยู่ในขั้นตอนของการเผยแพร่เทคโนโลยีสู่ภาคเอกชน เพื่อนำไปต่อยอดผลิตเป็นอาหารเสริมสุขภาพทางเลือกใหม่ ที่จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่อไปอนาคต ดังนั้นในขณะนี้จึงมีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเท่านั้น ศ.ดร.อุษณีย์ กล่าวทิ้งท้าย