ที่จุดที่ลึกที่สุด ซึ่งมีหุบเขาลึกลงไปประมาณ 5,000 เมตร (16,404 ฟุต) ใต้ระดับน้ำทะเล อุณหภูมิอาจสูงถึง 80°C (176°F) อุณหภูมิที่ร้อนที่สุดที่เคยบันทึกไว้บนโลกคือ 54°C และเนื่องจากน้ำจากทะเลเมดิเตอเรเนียนมีความเค็มมาก ผืนดินที่ถูกเปิดออกจึงเป็นเพียงที่ราบเกลือและไร้ประโยชน์สำหรับการเกษตร ในไม่ช้าผืนดินโดยรอบก็จะกลายเป็นทะเลทรายเช่นกัน น้ำทะเล ยุโรปตอนใต้และตุรกีจะเริ่มแห้งแล้ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเกษตรในยุโรปอย่างมาก สัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจะต้องเลือกระหว่างการอพยพออกจากชายฝั่งหรือตายเพราะน้ำที่เหลืออยู่จะเค็มและตื้นเกินไป และผลกระทบด้านลบจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่มหาทวีปใหม่ของเราเท่านั้น น้ำทั้งหมดจากทะเลที่ระบายออกไปจะถูกแจกจ่ายไปทั่วมหาสมุทรของโลก ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 10 เมตร (32 ฟุต) เมืองต่างๆ เช่น นิวออร์ลีนส์ ซาคราเมนโต อัมสเตอร์ดัม โคเปนเฮเกน และเซี่ยงไฮ้ จะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด